ธรรมชาติของเจ้าตัวเล็กนั้นจำเป็นต้องมีพื้นฐานร่างกายที่แข็งแรงเพื่อพร้อมสำหรับการเจริญเติบโตค่ะ ดังนั้น การออกกำลังกายและการบริหารร่างกายอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะกระตุ้นให้ระบบกล้ามเนื้อได้รับการพัฒนา ส่งผลดีต่อการเติบโตอย่างแข็งแรงนั่นเอง และวันนี้เราก็มีวิธีการและกิจกรรมดีๆ ที่จะช่วยบริหารร่างกายลูกรักให้แข็งแรงมาฝากกันด้วยค่ะ…
 
1. ‘วัยเบบี้’ บริหารด้วยกีฬา
‘กีฬา… กีฬา เป็นยาวิเศษ’ ยังคงเป็นคำพูดที่ใช้ได้กับคนทุกเพศทุกวัยแม้แต่กับเจ้าตัวเล็กนะคะ โดยกีฬาที่เหมาะสมที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกได้ฝึกบริหารร่างกายตั้งแต่วัยเบบี้ก็คือ ‘การว่ายน้ำ’ นั่นเองค่ะ ดังนั้น หากคุณพ่อคุณแม่มีลูกวัยเบบี้ 4 เดือนขึ้นไป ลองพาเขาไปเรียนว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะสิคะ เพราะสระสำหรับเด็กเล็กนี้จะมีครูผู้สอนคอยดูแลอย่างใกล้ชิด แต่แนะนำให้เลือกสระที่ได้การรับรองตามมาตรฐานสากลทั้งระบบการจัดการ คุณภาพน้ำ และประสิทธิภาพของครูนะคะ รับรองว่าการดำผุดดำว่ายในชั่วโมงว่ายน้ำจะทำให้ลูกน้อยได้บริหารร่างกายทุกส่วนแน่นอนค่ะ แถมเขายังได้เรียนรู้ทักษะการเอาตัวรอดในน้ำอีกด้วย… คุ้มยิ่งกว่าคุ้มค่ะ
 
2. ‘วัยจิ๋ว’ บริหารด้วยการเล่น
ลูกรักวัยจิ๋วตั้งแต่ 1-3 ขวบนั้น เริ่มมีความต้องการ ‘หยิบจับ’ สิ่งของต่างๆ รอบตัวแล้วค่ะ เป็นช่วงที่เขากำลังฝึกใช้มือน้อยๆ และสายตาอย่างประสานกัน ซึ่งความสามารถในการหยิบจับนี้จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ตามวัย ดังนั้น การให้ลูกได้เล่น หยิบ จับสิ่งของที่สนใจจึงเป็นวิธีง่ายๆ ให้เขาได้บริหารกล้ามเนื้อมัดเล็กอย่างนิ้วมือ และกล้ามเนื้อตาค่ะ ลองเริ่มจากการหาสิ่งของที่มีสีสันสดใสมาให้ลูกได้ฝึกมอง เอื้อมคว้า และหยิบจับ จากนั้นขยับมาให้เขาได้บีบๆ ปั้นๆ แป้งโดหลากสีเป็นรูปทรงต่างๆ ตามจินตนาการ และเมื่อลูกโตพอจะใช้นิ้วมือได้อย่างคล่องแคล่วลองให้เขาได้สนุกกับการพับกระดาษหลากสี เช่น พับตามความกว้างหรือยาว พับแนวทแยงมุม ไม่นานหรอกค่ะเขาจะสามารถพับเรือ พับจรวด หรือพับนกตามที่คุณพ่อคุณแม่สอนได้
 
3. ‘วัย อ.’ บริหารด้วยโยคะ
การออกกำลังกายบริหารด้วยการ ‘โยคะ’ ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเฉพาะของคุณแม่หรือคุณพ่ออีกต่อไปนะคะ เพราะเจ้าตัวเล็กวัยอนุบาลก็สามารถ Exercise ด้วยวิธีนี้ได้เช่นกัน ซึ่งเราขอแนะนำให้คุณแม่ใช้เวลาหลังมื้อเช้า (ประมาณ 2 ชั่วโมง) ชวนเจ้าหนู วัย อ. มาฝึกหายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องแฟบ ตามหลักการของโยคะกันค่ะ แต่ถ้าเขายังทำไม่ได้ไม่ต้องบังคับนะคะ ให้ลูกหายใจตามจังหวะธรรมชาติของตัวเองไป และเน้นที่ท่าทางการยืดตัวและการเคลื่อนไหวแบบโยคะก็พอค่ะ ซึ่งท่าโยคะง่ายๆ ที่เหมาะสำหรับให้ลูกได้เริ่มฝึกก็คือ
 
  • ท่านอนนิ่ง : เป็นท่าที่ง่ายจริงๆ ค่ะ เพียงให้ลูกน้อยนอนนิ่งๆ ปล่อยทิ้งทุกส่วนของร่างกายโดยไม่เกร็ง แล้วหายใจเข้าออกช้าๆ แค่นี้จิตใจและร่างกายของเขาก็จะผ่อนคลาย นอนหลับสบาย และตื่นขึ้นด้วยความสดชื่นค่ะ
  • ท่างู  : เป็นท่านอนคว่ำ ก้มหน้าติดพื้น วางมือใต้ไหล่แล้วค่อยๆ ยกหน้าอกด้วยแขนที่ยันกับพื้นขึ้นมา แล้วค้างไว้ จะช่วยยืดกล้ามเนื้อหลังและเพิ่มความแข็งแรงให้กับมือทั้งสองข้างของลูกได้ค่ะ
  • ท่าต้นไม้  : ฝึกการทรงตัวและบริหารกล้ามเนื้อแขนและขาลูกรักด้วยการชวนเขานั่งยองๆ จากนั้นค่อยๆ ยืนขึ้นเขย่งปลายเท้าทั้งสองข้าง พร้อมๆ กับชูมือขึ้นด้านบนเหมือนเป็นต้นไม้ที่กำลังเติบโตรับแสงแดด อ้อ… คุณแม่อย่าลืมกระตุ้นให้ลูกกางนิ้วมือออกให้เหมือนใบไม้ด้วยนะคะ

การบริหารร่างกายของลูกนั้นไม่จำเป็นต้องบังคับหรือชวนเขาทำแบบหักโหมนะคะ เพราะด้วยธรรมชาติการเรียนรู้และการเจริญเติบโตของเจ้าตัวเล็กนั้น เพียงแค่เคลื่อนไหวอย่างซุกซน กระโดดโลดเต้นบ้าง หรือทำกิจวัตรประจำวันด้วยตัวเอง เช่น แปรงฟัน ติดกระดุม ผูกเชือกรองเท้า ทานข้าวเอง รดน้ำต้นไม้ ก็ถือว่าได้บริหารร่างกายแล้วค่ะ ดังนั้น ลองมอบหมายให้ลูกรักได้ลงมือทำสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเองสิคะ แล้วคุณพ่อคุณแม่จะไม่ผิดหวังกับพัฒนาการของเขาเลยค่ะ


🌐 babyswimmingthailand.com

✨มาร่วมมอบของขวัญล้ำค่าที่จะติดตัวลูกของคุณไปตลอดชีวิตกับ BABY SWIMMING โรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็กแห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพ ISO 9001 และได้รับความไว้วางใจจากโรงพยาบาลชั้นนำ 🇹🇭💯🏆🎉😊🙏🏻✨

✨”BABY SWIMMING, A Precious Gift for Your Kids” 🐳 🏊🏻 💦 💙 🎁 ✨

#babyswimming #สอนว่ายน้ำเด็ก #เรียนว่ายน้ำเด็ก #สระว่ายน้ำเด็ก #โรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็ก #สระน้ำอุ่น #สระในร่ม

Share this