ในช่วงวัยเด็ก คุณพ่อคุณแม่คือบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับเด็กมากที่สุด และเด็กๆ ควรได้รับความรัก ความเข้าใจ รวมไปถึงการพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ที่สำคัญ วันนี้คุณครูจึงขอนำเสนอ 10 เคล็ดลับวิธีการเสริมพัฒนาการเรียนรู้ของลูกรักที่เหมาะสมทั้งด้านอารมณ์และร่างกายของเด็ก
1. ความรัก
ลูกต้องการความรักจากคุณ แต่ไม่ใช่การตามใจลูกทุกครั้งที่ลูกร้องไห้
สิ่งที่คุณแม่ควรปฎิบัติ : สอนให้ลูกเข้าใจว่าการร้องไห้เพื่อเรียกร้องความสนใจ หรือการร้องไห้เพื่อให้ได้สิ่งของที่ต้องการ แบบไหนเหมาะสม และสอนให้เขารู้ว่าไม่ใช่ทุกครั้งที่ลูกร้องไห้แล้วจะได้ทุกอย่างเสมอไป เพื่อให้เขาเข้าใจเหตุผลและไม่เกิดความเครียด
2. พูดคุย
หมั่นพูดคุยกับลูกบ่อยๆ ไม่ใช้ภาษาแบบเด็ก ควรใช้คำง่ายๆทั่วๆไป แต่มีความหมายที่เข้าใจได้ เช่น ทานข้าวนะคะ ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
สิ่งที่คุณแม่ควรปฎิบัติ : พูดกับลูกโดยใช้ภาษาที่คุณถนัดที่สุดและใช้คำศัพท์ที่หลากหลาย และอย่าประเมินเรื่องการได้ยินของลูกต่ำไป ลูกจะรู้สึกสนุกและพยายามทำความเข้าใจในคำพูดหรือท่าทางที่คุณแสดงออกมาค่ะ
3. สัมผัส
การสัมผัสช่วยกระตุ้นความรู้สึกต่างๆของลูกรวมถึงการเรียนรู้ ทั้งยังมีส่วนช่วยให้ลูกรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยมากขึ้นด้วย
สิ่งที่คุณแม่ควรปฎิบัติ : พยายามสัมผัสโดยการโอบกอด หอม จับมือ คุณแม่อาจนวดตัวให้ลูกทั่วร่างกายหลังอาบน้ำให้ลูกพร้อมพูดคุยเรื่องต่างๆ ไปด้วยค่ะ
4. เลียนแบบ
ลูกจะสนใจมองหน้าคุณเป็นพิเศษ เด็กแรกเกิดจะจ้องตาคุณและพยายามเลียนแบบสีหน้าท่าทางของคุณ เช่น การยิ้มหรือการทำหน้าหงุดหงิด
สิ่งที่คุณแม่ควรปฎิบัติ : ให้กำลังใจและให้ลูกทำหน้าตาท่าทางเหมือนคุณ เช่น ยิ้ม จ้อง หัวเราะ ทำหน้าดุ แลบลิ้น เพื่อช่วยบริหารใบหน้าลูกด้วย
5. ประสบการณ์
พยายามให้ลูกได้พบเจอและมีส่วนร่วมในสถานการณ์ต่างๆรอบๆตัวเพื่อช่วยเพิ่มทักษะในการเรียนรู้
สิ่งที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยง : การปล่อยให้ลูกดูทีวีไปเรื่อยๆ ไม่ใช่สิ่งที่ช่วยเพิ่มพูนทักษะได้ แต่การให้ลูกได้ออกไปพบเจอสิ่งต่างๆในโลกภายนอกที่เป็นของจริงจะช่วยให้ลูกเรียนรู้ได้ดีกว่าค่ะ
6. สำรวจ
ส่งเสริมให้ลูกเป็นนักสำรวจได้ด้วยการจัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีพื้นที่เป็นของตัวเองให้ลูกได้ทำกิจกรรมการค้นหา เช่น ห้องนั่งเล่น
สิ่งที่คุณแม่ควรปฎิบัติ : ควรวางสิ่งของที่อาจเป็นอันตรายให้ห่างจากลูกมากที่สุด เก็บสายไฟหรือปลั๊กให้พ้นมือลูก และเลือกของเล่นที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับวัยของลูก
7. การอ่าน
เสริมทักษะการอ่านให้ลูกง่ายๆด้วยการอ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่วัยเด็ก ลูกอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณเล่า แต่จะรู้สึกสนุกและมีส่วนร่วมกับเสียงหรือท่าทางต่างๆของคุณ และภาพประกอบในหนังสือหรือนิทานนั้น
สิ่งที่คุณแม่ควรปฎิบัติ : ให้ลูกมีส่วนร่วมในการเลือกหนังสือหรือนิทาน หนังสือนิทานแบบป๊อบอัพหรือแบบที่มีพื้นผิวให้สัมผัส สามารถเรียกความสนใจจากลูกได้
8. ดนตรี
การร้องเพลงหรือเล่นดนตรีให้ลูกฟังส่งผลดีต่อพัฒนาการทางสมองของลูก โดยเฉพาะเพลงที่มีจังหวะสม่ำเสมอ
สิ่งที่คุณแม่ควรปฎิบัติ : ลองแต่งเพลงขึ้นใหม่ อาจเป็นเพลงง่ายๆ สบายๆ เนื้อร้องที่สนุกๆ หรือล้อเลียนเพื่อให้คุณและลูกได้มีเวลาแห่งความสนุกร่วมกัน หรือเปิดเพลงเวลาทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เพลงช้าๆเวลาป้อนอาหาร หรือเพลงสนุกๆ เวลาเล่นกับลูก
9. กิจกรรมหรือการละเล่น
การเล่น คือการทำงาน คือความสนุก นั่นคือสิ่งที่ลูกเรียนรู้ กิจกรรมและการเล่นช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ให้กับลูกได้
สิ่งที่คุณแม่ควรปฎิบัติ : ลองใช้อุปกรณ์ที่เน้นด้านกราฟฟิค เช่น การ์ดสีสันต่างๆ เพื่อดึงดูดความสนใจและเป็นการฝึกทักษะการเอาใจใส่ไปในตัว และอย่าลืมอธิบายสีและรูปภาพต่างๆ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ไปด้วย
10. คำชม
ให้กำลังใจหรือคำชมเชยเมื่อลูกทำสิ่งที่ถูกต้อง และให้ลูกได้เรียนรู้และสำรวจในสิ่งที่เขาชอบ
สิ่งที่คุณแม่ควรปฎิบัติ : ให้กำลังใจลูก เช่น “หนูทำได้นะคะ” หรือ “เก่งมากค่ะ” เวลาที่ลูกทำสำเร็จ และใส่ใจในกิจกรรมที่ลูกทำเพื่อให้เขาไม่รู้สึกกังวลและให้รางวัลตอบแทนเป็นบางครั้ง
รู้อย่างนี้เเล้ว..คุณพ่อคุณแม่คงมีเทคนิคต่างๆ เพิ่มขึ้นเพื่อมอบความรักและความเข้าใจต่อลูกแล้วใช่ไหมคะ? ลองทำแล้วดีอย่างไร อย่าลืมมาบอกคุณครูน้า…
cr. hiqkidsclub
✨มาร่วมมอบของขวัญล้ำค่าที่จะติดตัวลูกของคุณไปตลอดชีวิตกับ BABY SWIMMING โรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็กแห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพ ISO 9001 และได้รับความไว้วางใจจากโรงพยาบาลชั้นนำ 🇹🇭💯🏆🎉😊🙏🏻✨
✨”BABY SWIMMING, A Precious Gift for Your Kids” 🐳 🏊🏻 💦 💙 🎁 ✨
#babyswimming #สอนว่ายน้ำเด็ก #เรียนว่ายน้ำเด็ก #สระว่ายน้ำเด็ก #โรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็ก #สระน้ำอุ่น #สระในร่ม