‘ดนตรี’ ช่วยให้การเรียนรู้ของลูกดีขึ้นได้…จริงไหมนะ?

เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่อาจเคยได้ยิน ‘เสียงลือเสียงเล่าอ้าง’ มากมายในเรื่องของ ‘ดนตรี’ ที่ส่งผลดีกับพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกรัก ทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสติปัญญา ซึ่งเรื่องนี้อาจไปกระตุก ‘ต่อมเอ๊ะ’ ของคุณพ่อคุณแม่บ้างว่าดีจริงไหมนะ แล้วดนตรีเข้ามามีส่วนช่วยเรื่องพัฒนาการและการเรียนรู้ได้อย่างไร เราจะพามาหาคำตอบกันค่ะ

1. เสียงดนตรีสร้างการเรียนรู้ที่ดีได้อย่างไร
ท่วงทำนองและจังหวะของดนตรีที่คุณแม่ให้เจ้าตัวเล็กได้สดับรับฟังอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อยู่ในครรภ์นั้นมีผลโดยตรงต่อการพัฒนาสมองส่วนระบบความคิดวิเคราะห์ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการเรียนรู้และพัฒนาการด้านไอคิวของลูกรักค่ะ โดยในปัจจุบันมีผลการศึกษามากมายที่พบว่าการให้เจ้าตัวน้อยฟังดนตรีตั้งแต่วัยเบบี้จะส่งผลให้สมองส่วนที่ควบคุมด้านสติปัญญาได้รับการกระตุ้น ทั้งด้านความคิดแบบเป็นเหตุเป็นผล การอ่าน การเขียน และความจำค่ะ นอกจากนี้ในทางจิตวิทยาแล้วการให้ลูกน้อยฟังเพลงตั้งแต่อยู่ในครรภ์คุณแม่จะช่วยทำให้ทารกในครรภ์รู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดี และกระตุ้นพัฒนาการด้านการฟังและการได้ยินด้วยนะคะ

2. ดนตรีสร้างคุณค่าทุกพัฒนาการของลูก
ไม่ใช่เพียงช่วยสร้างการเรียนรู้ที่ดีเท่านั้นนะคะ แต่เสียงเพลงและเสียงดนตรีสามารถช่วยเสริมสร้างพัฒนาการเจ้าตัวเล็กของคุณพ่อคุณแม่ได้อย่างดีในทุกๆ ด้านเลยล่ะ อยากรู้ใช่ไหมคะว่ามีคุณค่าดีๆ อะไรที่ลูกรักจะได้จากการฟังดนตรีบ้าง ตามมาดูสิคะ

• ด้านสติปัญญา ช่วยให้มีสมาธิ การเปิดเพลงเบาๆ ให้ลูกรักฟัง โดยเฉพาะเพลงคลาสสิก จะช่วยสร้างสมาธิให้กับเขา เพิ่มความสามารถในการจดจำและการเรียนรู้ที่ดีขึ้นได้ค่ะ นอกจากนี้จังหวะจะโคนและท่วงทำนองของดนตรียังช่วยให้คลื่นสมองเรียบเรียงความคิด การใช้เหตุผล และพัฒนาการด้านความคิดสร้างสรรค์ กระตุ้นให้เจ้าตัวเล็กเกิดจินตนาการได้แบบไม่จำกัดเลยนะคะ
• ด้านจิตใจและอารมณ์ การที่ลูกรักได้สัมผัสและคลุกคลีกับเสียงดนตรีอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เขาเป็นคนที่ละเอียดอ่อน อ่อนโยน เพราะการฟังดนตรีเป็นการเพิ่มระดับของสารความสุข หรือ Endorphin ซึ่งช่วยลดความเครียด ทำให้ลูกรู้สึกสงบ และเป็นสุขนั่นเองค่ะ
• ด้านร่างกาย เมื่อลูกรักมีความสนุกสนานและเพลิดเพลินจากเสียงดนตรี แน่นอนค่ะว่าพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวของเขาย่อมถูกกระตุ้นตามไปด้วย เพราะเส้นประสาทการรับฟังของลูกมีการเชื่อมโยงหูชั้นในกับกล้ามเนื้อทุกมัดของร่างกายเขา ดังนั้น เมื่อฟังเพลงด้วยความรู้สึกเป็นสุขและผ่อนคลาย ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อลูกจะผ่อนคลายด้วย ช่วยให้เขาเคลื่อนไหวคล่องแคล่วขึ้น กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่น กระชับ และแข็งแรง ที่สำคัญคือการได้ยินเสียงสูงๆ ต่ำๆ ของดนตรีทำให้ลูกน้อยได้รับความถี่ของคลื่นเสียงที่แตกต่างกันไปด้วย สมองส่วนรับรู้การได้ยินจึงถูกพัฒนาตามการฟังดนตรีช่วยให้ทักษะการฟังและการได้ยินของลูกดีขึ้นค่ะ

การส่งเสริมให้ลูกรักได้สัมผัสและรักดนตรีไม่เพียงจะช่วยสร้างการเรียนรู้ พัฒนาการด้านต่างๆ และประสบการณ์ที่ดีให้เขาเท่านั้นนะคะ แต่ยังทำให้เขาได้ใช้เวลาว่างอย่างเกิดประโยชน์ด้วย ยิ่งหากเป็นการฟังดนตรีและทำกิจกรรมเข้าจังหวะไปพร้อมๆ กับคุณพ่อคุณแม่ด้วยจะช่วยสานสายสัมพันธ์ภายในครอบครัวได้เป็นอย่างดี เป็นช่วง Quality Time ของครอบครัวนะคะ