ยุทธวิธีเสริมสร้างสมาธิให้ลูกรัก

สำหรับเจ้าตัวเล็กของคุณพ่อคุณแม่แล้ว ‘สมาธิ’ ถือเป็นสิ่งสำคัญมากนะคะ เพราะเมื่อเจ้าตัวเล็กเป็นเด็กที่มีสมาธิเขาจะมีการจดจ่ออยู่กับสิ่งที่สนใจ มีความสามารถในการจดจำสิ่งต่างๆ ส่งผลดีต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ค่ะ แน่นอนค่ะเมื่อสมาธิมีความสำคัญขนาดนี้เราจึงมีเคล็ดลับให้คุณพ่อคุณแม่นำไปใช้เสริมสร้างสมาธิให้เจ้าตัวเล็กมาฝากกันค่ะ

1. ‘สมาธิ’ สำคัญอย่างไรต่อเจ้าตัวเล็ก
สมาธิเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อเจ้าตัวเล็กในแง่ของพัฒนาการและการเรียนรู้ค่ะ นั่นคือ จะทำให้เจ้าตัวเล็กจดจ่ออยู่กับสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น ได้ลงมือทำกิจกรรมหรือสิ่งที่ตนเองสนใจได้สำเร็จ เป็นการสร้างกำลังใจ ความภาคภูมิใจและความเชื่อมั่นในตนเองให้แก่เขา ซึ่งเมื่อเจ้าตัวเล็กมีความมั่นใจแล้วเขาก็จะกล้าที่จะมีสังคมและมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อคนอื่นๆ ต่อไปค่ะ เห็นไหมคะว่าสมาธิส่งผลลัพธ์ที่ดีต่อพัฒนาการด้านการเรียนรู้ สติปัญญา ร่างกาย อารมณ์และสังคมของลูกรักให้ได้ขับเคลื่อนไปพร้อมกันทั้งหมดเลย

2. ฝึกแบบนี้ ‘สมาธิ’ เกิดจ้ะลูก
สมาธิทำให้เกิดการเรียนรู้ และการเรียนรู้ที่ดีก็ช่วยสร้างสมาธิได้เช่นกัน ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกรักได้ทำกิจกรรมการเรียนรู้ โดยนำสิ่งเร้าอันวูบไหวที่จะบั่นทอนสมาธิของลูกอย่างทีวีและ โทรศัพท์มือถือออกไปให้ห่างเขา แล้วชวนเขาทำกิจกรรมที่เรานำมาฝากต่อไปนี้นะคะ

• ชวนเจ้าตัวเล็กเล่นเกมจับคู่ เช่น จับคู่ภาพที่เหมือนกัน หรือจับคู่คำศัพท์ เป็นต้น
• งานบ้านง่ายๆ เช่น การชวนลูกรักเข้าครัว ตกแต่งหน้าตาเมนูอาหารของตัวเอง คัดแยกสีเสื้อผ้า หรือพับเสื้อผ้าหรือถุงเท้าของตัวเอง ช่วยสร้างสมาธิได้มากเลยนะคะ
• ดนตรีสร้างสมาธิได้ค่ะ ให้ลูกมีเวลาสุนทรีกับเสียงเพลงสัก 15-20 นาที จะช่วยให้ลูกมีจิตใจที่สงบ มีสมาธิ เหมาะอย่างยิ่งในการเตรียมพร้อมสู่ชั่วโมงท่องศัพท์ภาษาอังกฤษกับคุณแม่ หรือเล่นบวกเลขกับคุณพ่อนะคะ
• งานศิลปะแสนสนุก ทั้งการวาดภาพระบายสี การปั้นแป้งโด หรือการพับกระดาษเป็นอีกประเภทกิจกรรมที่จะทำให้ลูกน้อยมีใจจดจ่อกับสิ่งที่ทำและเกิดสมาธิ แถมยังช่วยเพิ่มพลังความคิดสร้างสรรค์ให้ลูกน้อยด้วยนะคะ
• กีฬาต่างๆ เช่น ว่ายน้ำ การฝึกลอยตัวในน้ำ ดำน้ำ สามารถสร้างสมาธิและความสนุกสนานให้เจ้าตัวเล็กได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยให้ลูกน้อยมีทักษะการเอาตัวรอดทางน้ำติดตัวอีกด้วยนะคะ

การฝึกให้เจ้าตัวเล็กเป็นเด็กที่มีสมาธินั้นไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้สำเร็จเพียงชั่วข้ามคืน ด้วยการลงมือทำเพียงครั้งเดียว หรือชั่วครั้งชั่วคราวนะคะ แต่เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดขึ้นกับลูกอย่างสม่ำเสมอจนเป็นกิจวัตร ที่สำคัญคือคุณพ่อคุณแม่เองต้องเป็นตัวอย่างของการปฏิบัติที่ดีให้ลูกเห็นด้วยนะคะ การฝึกของเขาจึงจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและคาดหวังผลลัพธ์ที่ดีได้ค่ะ