innovation ให้ลูก

โดยปกติทั่วไปคุณพ่อคุณแม่อาจจะพอทราบกันดีอยู่แล้วใช่ไหมคะว่า คำว่า “Innovation” คือการต่อยอด พัฒนา และสร้างมูลค่าสิ่งที่มีอยู่เดิมให้มากยิ่งขึ้นและดีขึ้น เพราะในยุคปัจจุบันเราไม่ได้แข่งขันกันด้วยวิธีการแบบเดิมอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นการแข่งขันกันทาง “ไอเดีย” และ “ความคิดสร้างสรรค์” ในการผลิต พัฒนา ต่อยอด และนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ให้น่าสนใจมากที่สุดต่างหาก

ดังนั้น คงไม่ผิดนักหากจะบอกว่า การเลี้ยงลูกให้มี Innovation ก็คือการส่งเสริมและพัฒนาทักษะ “ความคิดสร้างสรรค์” ของลูกตั้งแต่ยังวัยเด็ก เพื่อให้เขาสามารถเติบโตเป็นคนที่มีความคิดนอกกรอบ คิดต่าง (ในทางที่ดีนะคะ) เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่ดีกว่าให้แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมต่อไปในอนาคตค่ะ

“Innovation” ผลลัพธ์จาก “ความคิดสร้างสรรค์”

ความคิดสร้างสรรค์ คือทักษะที่ช่วยให้เด็กๆ สามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ถูกปลูกฝังมาประยุกต์และสร้างเป็นไอเดียต่างๆ ในรูปแบบของตัวเขาเอง เด็กที่ขาดซึ่งความคิดสร้างสรรค์จะไม่สามารถนำทักษะความรู้ที่ตนเองสั่งสมไว้มาประยุกต์ใช้ร่วมกันได้ ดังนั้น หากเกิดปัญหาใหม่ที่ซับซ้อนหรือไม่เคยเผชิญหน้ามาก่อนเขาก็จะไม่เกิดไอเดียสร้างสรรค์เพื่อค้นหาวิธีหรือหนทางในการผ่านปัญหาหรืออุปสรรคไปได้นั่นเองค่ะ

และนอกจากจะได้หนทางใหม่ๆ ในการก้าวผ่านอุปสรรคหรือเหตุการณ์ต่างๆ แล้ว ผลลัพธ์แสนวิเศษอีกอย่างที่ลูกรักจะได้จากทักษะความคิดสร้างสรรค์ที่เต็มเปี่ยมก็คือ “Innovation” ซึ่งอาจเกิดขึ้นในรูปของไอเดีย วิธีการ งานประดิษฐ์ สิ่งของ งานศิลปะ ทักษะพิเศษ หรืออะไรก็ได้ที่เป็น “สิ่งใหม่” หรือมีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง มีความเป็นอัตลักษณ์หรือตัวตนของลูก และสามารถสร้างคุณค่าให้กับตัวเขาเองหรือคนรอบข้างได้นั่นเองค่ะ

5 ยุทธวิธีสร้างลูกให้มี “Innovation”

1. ปลูกนิสัยเจ้าหนูช่างคิด (สร้างสรรค์)

เมื่อความคิดสร้างสรรค์คือฟันเฟืองหลักสำคัญในการต่อยอดไปสู่การมี Innovation ของลูกในอนาคต ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องปลูก “นิสัยสร้างสรรค์” ซึ่งจะเอื้อต่อการจุดพลังความสร้างสรรค์ในตัวลูกก่อนค่ะ และนิสัยเหล่านั้นก็ได้แก่

💙 มีความอยากรู้อยากเห็น ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ข้อนี้ไม่ยากเลยค่ะ เพราะธรรมชาติของเจ้าตัวเล็กเกิดมาพร้อมลักษณะนิสัยของการอยากจะเรียนรู้อยู่แล้ว แค่คุณพ่อคุณแม่กระตุ้นด้วยการตั้งคำถามปลายเปิด แล้วชวนกันค้นหาคำตอบ แค่นี้ก็จะทำให้ลูกได้บ่มเพาะความรู้และประสบการณ์ เพื่อนำไปประยุกต์และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ต่างๆ ออกมาในอนาคตได้แล้วละค่ะ

💙 มีความยืดหยุ่น เปิดรับสิ่งใหม่ และรู้จักปรับตัว การปลูกฝังลักษณะนิสัยนี้ให้ลูกจะช่วยให้เขาเป็นเด็กที่ตื่นตัว พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง และมีความคิดดีๆ ใหม่ๆ สำหรับสิ่งรอบข้างอยู่ตลอดเวลา ให้ลูกรู้จักและเข้าใจเรื่อง “ความไม่สมบูรณ์แบบ” บ้าง อย่าทำให้เขารู้สึกว่าสามารถมีทุกอย่างได้ตามต้องการ เช่น “อยู่บ้านเราลูกมีของเล่นครบเลยนะแต่ถ้าไปบ้านคุณยาย หรือบ้านเพื่อนลูกอาจจะหยิบของเล่นที่ชอบจริงๆ ไปได้ 1-2 ชิ้นนะ และบางครั้งเพื่อนอาจมีของเล่นที่ลูกไม่มีนะจ๊ะ แต่ลูกเล่นด้วยกันอย่างสนุกและมีความสุขได้นะ” เป็นการสอนให้ลูกเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่าง “ความต้องการ” กับ “ความจำเป็น” เพราะการมีทุกอย่างไม่ได้แปลว่าจะเป็นคนที่มีความสุขที่สุด

นอกจากนี้ยังควรให้ลูกรู้จักและยอมรับความผิดหวังให้ได้ ทั้งการเรียนและการแข่งขันกีฬา หรือกิจกรรมอื่นใดก็ตาม ต้องรู้ว่าจะมีคนที่เก่งกว่า ดีกว่า หรือแย่กว่าเราเสมอ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขามีคุณค่ามากหรือน้อยกว่าเรา ลูกต้องเรียนรู้ที่จะล้มให้เป็น ยิ้มรับความสามารถของตัวเองและผู้อื่นอย่างเข้าใจและมีความสุข 

💙 มีความกล้าและมั่นใจในตัวเอง นั่นคือ กล้าที่จะคิด กล้าที่จะลอง และถ่ายทอดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยให้ลูกมีความกล้าและความมั่นใจได้ด้วยการ “เปิดโอกาส” ให้เขาได้ริเริ่มที่จะคิด และลงมือทำสิ่งที่สนใจด้วยตนเอง โดยมีแรงสนับสนุนจากคุณพ่อคุณแม่ ผิดพลาดไม่เป็นไร ลองใหม่ได้ ล้มเหลวไม่เป็นไร ลุกขึ้นสู้อีกครั้งได้ เพราะมีกำลังใจและความรักความอบอุ่นจากคุณพ่อคุณแม่มอบให้อยู่เสมอนั่นเองค่ะ

2. ให้ลูกได้อยู่ในสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย

การให้ลูกอุดอู้อยู่แต่ในห้องแคบๆ หรือได้เล่นและทำกิจกรรมแค่ในบ้าน ไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเกิดความคิดสร้างสรรค์เลยค่ะ ฉะนั้น ให้เขาได้ใช้เวลานอกบ้านเพื่อใช้ประสาทสัมผัสในการสังเกต ตั้งข้อสงสัย สำรวจ สัมผัส และสร้างสรรค์การเรียนรู้และทำกิจกรรมของตัวเองบ้าง ไม่ว่าจะในสนามเด็กเล่น สวนสนุก สวนสาธารณะ เพื่อให้เขาได้เปิดโลกกว้างอย่างอิสระและผ่อนคลาย สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านการเล่นหรือการทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ แสดงความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ แค่นี้ไฟแห่งความคิดสร้างสรรค์ก็พร้อมจะถูกจุดแล้วค่ะ

3. รับฟังความคิดลูกด้วยหัวใจ 

เมื่อไรก็ตามที่เด็กๆ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ คุณพ่อคุณแม่คือบุคคลแรกที่พวกเขาอยากจะแชร์และเล่าประสบการณ์เหล่านั้นให้ฟัง ดังนั้น ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ก็ตาม เมื่อลูกเล่าขอให้รับฟังค่ะ ต้องฟังอย่างตั้งใจด้วยนะคะ ไม่ใช่แค่ฟังผ่านๆ ไปอย่างนั้น เพราะเขารู้ค่ะว่าคุณพ่อคุณแม่กำลังฟังเขาอยู่จริงๆ หรือเปล่า การตั้งใจฟังนี่แหละค่ะคือมูลค่ามหาศาลของเวลาคุณภาพ ที่คุณพ่อคุณแม่จะได้ตั้งคำถาม แสดงความรู้สึก ความคิดเห็น ต่อยอดสิ่งที่ลูกคิดและลงมือทำ ยอมรับในตัวลูก สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เขาได้ฝึกกระบวนการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล เกิดการเรียนรู้และการพัฒนาของสมองค่ะ

4. สร้างความเข้าใจและเคารพเรื่องความต่าง

โลกทุกวันนี้เต็มไปด้วย “ความแตกต่าง” ค่ะ ทั้งเรื่องความคิด การใช้ชีวิต หรือแม้แต่เรื่องเพศ การจะสร้างเด็กคนหนึ่งให้มีความคิดสร้างสรรค์และมี Innovation เขาจำเป็นต้องเข้าใจและเคารพเรื่องความแตกต่างว่าทุกคนล้วนมีความ “เฉพาะตัว” ลูกเราไม่จำเป็นต้องเหมือนเด็กคนอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนใคร และเราไม่สามารถบังคับใครให้คิดเหมือนเราได้ ทักษะและความสามารถเฉพาะด้านของแต่ละคนก็ต่างกัน ไม่เท่ากัน ทุกคนล้วนมีดีคนละแบบ จงเคารพตัวตนของกันและกัน เพราะฉะนั้น “อย่าเปรียบเทียบ” ลูกกับเด็กคนอื่นเด็ดขาด เพราะการถูกนำไปเปรียบเทียบเสมือนเป็นการปิดสวิตช์ความกล้าที่จะคิด กล้าที่จะทำ และกล้าที่จะเป็นของเขา ซึ่งเมื่อหมดความกล้าความคิดสร้างสรรค์ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน

5. ส่งเสริมองค์ความรู้อย่างรอบด้าน 

ความคิดสร้างสรรค์จะไม่สามารถนำไปสู่ Innovation ได้เลยหากลูกรักขาด “องค์ความรู้” และประสบการณ์การเรียนรู้ที่มากเพียงพอ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้เขาได้เรียนรู้ทักษะต่างๆ อย่างรอบด้าน ทั้งในเชิงวิชาการและทักษะการใช้ชีวิตในสังคม ตลอดจนความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนโลกยุคปัจจุบัน เพื่อให้เขาสามารถบูรณาการองค์ความรู้และทักษะที่ตัวเองมีเข้าด้วยกันต่อยอดความคิดสร้างสรรค์เพื่อเกิดเป็น Innovation ต่อไปในอนาคตได้ค่ะ

ไม่ยากเลยใช่ไหมคะยุทธวิธีทั้ง 5 ข้อ เรื่องมหัศจรรย์เกิดได้ทุกวันค่ะถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ปิดกั้นจินตนาการของลูก…มาช่วยกันสร้างเจ้าหนูช่างคิด ช่างสร้างสรรค์ ไปพร้อมๆ กันเพื่อให้พวกเขาเป็นกำลังสำคัญให้กับประเทศไทยของเราในอนาคตกันนะคะ


🌐 babyswimmingthailand.com

✨มาร่วมมอบของขวัญล้ำค่าที่จะติดตัวลูกของคุณไปตลอดชีวิตกับ BABY SWIMMING โรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็กแห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพ ISO 9001 และได้รับความไว้วางใจจากโรงพยาบาลชั้นนำ 🇹🇭💯🏆🎉😊🙏🏻✨

✨”BABY SWIMMING, A Precious Gift for Your Kids” 🐳 🏊🏻 💦 💙 🎁 ✨

#babyswimming #สอนว่ายน้ำเด็ก #เรียนว่ายน้ำเด็ก #สระว่ายน้ำเด็ก #โรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็ก #สระน้ำอุ่น #สระในร่ม

Share this